วัดป่าชิปท์เว็ท ตั้งอยู่ ณ เมืองชิปท์เว็ท ในเขตเอิสท์โฟลด์ ทางตอนใต้ของเมืองออสโล ใช้เวลาเดินทางทางรถยนต์ประมาณหนึ่งชั่วโมง มีเนื้อที่ประมาณ 220 ไร่
ปัจจุบันนี้บ้านพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมไม่มีห้องน้ำและน้ำประปาในตัวอาคาร แต่ผู้เข้าปฏิบัติธรรมสามารถใช้ห้องน้ำรวมได้ที่บริเวณตึกใหญ่
ปัจจุบันนี้บ้านพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมไม่มีห้องน้ำและน้ำประปาในตัวอาคาร แต่ผู้เข้าปฏิบัติธรรมสามารถใช้ห้องน้ำรวมได้ที่บริเวณตึกใหญ่
ระเบียบสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมถือศีล ๘
วัดเปิดต้อนรับพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจทุกวัน 05:00 – 20:30 น. ตามกำหนดกิจวัตรประจำวัน ผู้ที่ประสงค์จะพักค้างคืนเพื่อปฏิบัติธรรมกรุณาแจ้งความจำนงล่วงหน้าผ่านทางอีเมล โดยระบุวันที่ท่านประสงค์จะเข้าปฏิบัติธรรม และวันที่สำรอง(กรณีสถานที่ปฏิบัติธรรมเต็ม)
ผู้ที่มาวัดเป็นครั้งแรกและประสงค์จะพำนักที่วัด สามารถค้างคืนได้ไม่เกิน 3 คืน (ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และประสงค์จะพำนักที่วัด ทางวัดจะพิจารณาให้ท่านสามารถค้างคืนได้มากกว่า 3 คืน ซึ่งจะพิจารณาตามความเหมาะสม แล้วแต่กรณี) ท่านใดที่เคยปฏิบัติธรรมตามแนว พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ขอความกรุณาแจ้งให้กับทางวัดทราบด้วย
การแต่งกาย ควรแต่งกายสุภาพมิดชิด ควรใช้เสื้อผ้าสีอ่อนๆ ถ้ามีลายก็เป็นลายเรียบๆ เนื้อผ้าไม่ควรโปร่งบางหรูหราจนเกินไป ไม่ควรสวมเสื้อผ้ารัดรูป เพื่อความสะดวกในการกราบไหว้พระและนั่งสมาธิ หลีกเลี่ยงการตกแต่งด้วยเครื่องประดับ เครื่องสำอาง น้ำหอม และไม่ควรแต่งหน้า เหตุที่ควรปฏิบัติเช่นนี้เพราะวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม คนไปวัดเพื่อทำบุญ ทำจิตใจให้สงบ จึงควรตัดเรื่องปรุงแต่งกิเลสเหล่านี้ออกไปเสียก่อน
ชั้นบนของตัวอาคารเป็นเขตของสงฆ์ ซึ่งทางวัดไม่อนุญาตให้ผู้ปฏิบัติธรรมขึ้นไปโดยเด็ดขาด
กรณีเจ็บป่วยหรือมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบริเวณวัดระหว่างการปฏิบัติธรรม ขอให้แจ้งพระอาจารย์ผู้ดูแลหรือเจ้าหน้าที่ทราบทุกครั้ง
ทางวัดไม่มีนโยบายให้ผู้เข้ามาปฏิบัติธรรมใช้อินเตอร์เน็ตหรืออีเมล เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ใช้เวลาไปกับการปฏบัติธรรมอย่างเต็มที่
ทางวัดไม่สามารถจัดเตรียมอาหารพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม แต่ผู้ปฏิบัติธรรมจะได้รับประทานอาหารหลังจากพระภิกษุรับประเคนและตักอาหารที่รับประเคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาหารโดยส่วนใหญ่เป็นอาหารมังสวิรัติ
แม้ทางวัดจะเน้นอาหารมังสวิรัติ แต่ท่านทั้งหลายที่ประสงค์จะนำอาหารมาถวายพระสงฆ์หรือผู้ปฏิบัติธรรมสามารถเตรียมอาหารตามความสะดวกของท่าน (แต่พึงระมัดระวังต้องไม่เป็นอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ที่ต้องห้ามสำหรับพระภิกษุตามพระวินัย นอกจากนั้น ไม่ควรนำอาหารที่ปรุงด้วยสุรา เนื้อสัตว์หรือปลาที่สุกๆ ดิบๆ ไปถวายพระภิกษุสงฆ์ หรือฆ่าสัตว์โดยจำเพาะเจาะจงว่าจะนำเนื้อนั้นไปทำอาหารถวายแด่พระภิกษุสงฆ์)
ผู้ปฏิบัติธรรมพึงบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการดูแลทำความสะอาดให้เรียบร้อยตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัด และช่วยเหลืองานตามความเหมาะสม
การสนทนากับพระ หากเป็นผู้ชายไม่ค่อยมีระเบียบปฏิบัติที่เคร่งครัดนัก เพียงแต่ให้ตระหนักว่าเป็นการสนทนากับพระ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลของสังคม มีเพศ คือ สถานะทางสังคมเหนือกว่าตน เมื่อเข้าไปถึงที่อยู่ของท่าน ควรจะกราบพระพุทธปฏิมาที่ประดิษฐานอยู่ ณ ที่แห่งนั้นก่อน แล้วจึงกราบพระสงฆ์ ซึ่งนิยมกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์เพื่อเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูง ในกรณีที่เป็นสตรีนั้น สตรีไม่ควรอยู่กับภิกษุสงฆ์สองต่อสอง หากต้องสนทนาควรมีบุรุษอยู่ด้วย
ผู้ปฏิบัติธรรมควรทำตามข้อกำหนดของวัดอย่างเคร่งครัด
ศีล ๘
คำสมาทานศีล ๘ (คำอธิบายอยู่ในวงเล็บ)
มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ,
ข้าพเจ้าทั้งหลายขอสมาทานศีล ๘, ต่อคุณพระศรีรัตนตรัย, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น ณ โอกาสบัดนี้,
ทุติยัมปะ มะยัง ภันเต ...
แม้คร้งที่ 2 นี้, ข้าพเจ้าก็ขอสมาทานศีล ๘ ...
ตะติยัมปิ ...
แม้ครั้งที่ 3 นี้ ...
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง,
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง,
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง,
ทุติยัมปิ พุทธัง ...
ตะติยัมปิ พุทธัง..
1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์, และทรมานให้สัตว์, ได้รับความทุกข์เดือดร้อน,
2. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการขโมย ฉ้อโกง เอาของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยมิได้รับอนุญาต,
3. อะพรัหฺมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น จากการกระทำอันมิใช่พรหมจรรย์,
4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการพูดคำเท็จ (และงดเว้นพูดจายุยงส่อเสียด,พูดจาหยาบคายด่าทอ,พูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระ, ที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย ผู้ปฏิบัติพึงสำรวมวาจา พูดแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น),
5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะท สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการดื่มสุราเมรัย, และเครื่องดองของเมา, อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท (และงดสูบบุหรี่ในบริเวณวัด),
6. วิกาละโภชนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น จากการบริโภคอาหารในยามวิกาล, (อนุญาตให้ดื่มน้ำหวาน(น้ำตาล) น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ ช็อกโกแล็ตแบบไม่มีนมผสม ชา กาแฟ หรือนมถั่วเหลือง (งดนมวัว))
7. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะ - มาลาคันธะ - วิเลปะนะ - ธารณะ - มัณฑะนะ - วิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ,
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการ ฟ้อนรำ, การขับร้องเพลง การดนตรี, การละเล่นทุกชนิดที่เป็นข้าศึกต่อกุศล, การตกแต่งตนด้วยพวงมาลา, ด้วยเครื่องกลิ่นหอม และเครื่องผัดทา,
8. อุจจาสะยะนะมหาสะยะนา เวระมะนี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท, คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการนั่งนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ่
กิจวัตรประจำวัน
05.00―06.00 น. ทำวัตรเช้า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าอย่างมีสติ
11.00 น. รับประทานอาหารเพลอย่างมีสติ
19.00―20.30 น. ทำวัตรเย็น
ทางวัดขอความร่วมมือจากผู้ปฏิบัติทุกท่านโปรดพึงสำรวมกาย วาจา ใจ ระหว่างพำนักอยู่ในวัด และปิดวาจาหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จไปจนถึงเวลาทำวัตรเช้า และพึงบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการดูแลความสะอาดเรียบร้อยของสถานที่ต่างๆ ภายในวัดด้วย
สิ่งที่ควรนำติดตัวมาด้วย
- ไฟฉาย
- รองเท้าบูทยางกันฝน เสื้อกันฝน ร่ม
- ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้าห่ม
- นาฬิกาปลุก ฯลฯ
หนังสือสวดมนต์ pdf